ทำยังไง ? อดีตสาวอ้วนขี้เหร่ สิวเกรอะ เปลี่ยนตัวเอง
แชร์ประสบการณ์เปลี่ยนแปลงตัวเองของอดีตสาวอ้วนดำ หน้าตาขี้เหร่ แม้แต่โจรยังเมิน ทุกวันนี้บอกเลยว่าหลังจากพัฒนาความสวยแล้ว สวยเป๊ะราวกับคนละคน จนคุณแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันเชียวล่ะ
สำหรับผู้หญิงบางคน การที่อยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง อาจจะมาจากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับเรื่องราวของคุณ 2663432 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เธอคนนี้มีแรงบันดาลใจที่อยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เพราะว่าเธออ้วนดำ หน้าสิว ตัวใหญ่ ถึงแม้กระทั่งขนาดโจรยังเมิน ! ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเธอที่ทำให้เธอผ่านพ้นเหตุการณ์ร้าย ๆ นั้นมาได้ แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องตลกในหมู่เพื่อน ๆ ของเธอ และทำให้เธอโดนล้อมาโดยตลอดว่า "มีหน้าตาเป็นอาวุธ" และด้วยความที่น้อยใจในเรื่องนี้ เธอจึงตั้งใจที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการนำเรื่องนี้มาเป็นแรงผลักดันที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม
และแล้วเธอก็ได้เริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมไปถึงออกกำลังกายลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร ซึ่งผลที่ได้มันทำให้เธอสวยขึ้นราวกับคนละคน ! และถ้าคุณอยากจะรู้ว่าเธอคนนี้จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปได้มากขนาดไหน ไปติดตามดูเรื่องราวของเธอกันเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อ "แอนตี้" ค่ะ เมื่อก่อนชื่อแอน เฉย ๆ พอดีมีเหตุการณ์หนึ่งเป็นจุดเปลี่ยน เพื่อนเลยเรียกว่า แอนตี้ มาจากแอนตี้หน้าตัวเองค่ะ 555+
ตั้งกระทู้นี้ เป็นกระทู้แรกค่ะ ก็เพราะเพื่อนด้วยแหละ ที่อยากให้แอนแบ่งปันประสบการณ์ดูแลตัวเอง
เดิมทีแอนเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ เรียนจบจากจังหวัดอุบลราชธานี ก็ช่วยที่บ้านทำนาค่ะ งานถนัดเลย ทั้งดำนา หว่านกล้า เกี่ยวข้าว ต้อนควาย ดักปลา งานถึก ๆ ใช้แรงเนี่ยถนัดเลยค่ะ ไม่เคยดูแลตัวเองเลย สภาพตามที่เห็น ทั้งสิว อ้วน แต่งตัวก็ไม่เป็น ดูแล้วเชยสุด ๆ นึกว่ามนุษย์ป้า ก็เพราะเราไม่รู้จะแต่งไปให้ใครดู อยู่แต่ไร่นา เรียนเสร็จก็กลับบ้าน ไม่ค่อยได้เที่ยวไหน
ต่อมาสักพัก เพื่อนชวนมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ พร้อมกับทำงานไปด้วย เราก็อยากมา เลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ อยากเป็นสาวเมืองกรุง ตอนนี้แอนเรียนมหาวิทยาลัยภาคพิเศษค่ะ เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนจันทร์-ศุกร์ก็ทำงาน ตอนนั้นก็หางานตามเว็บไซต์ทั่วไป อ้อ… ลืมบอกไปว่าแอนจบ ปวช. บัญชีมาค่ะ เคยเรียนวิชาเลขานุการมาบ้าง เลยได้งานใกล้หอ เป็นออฟฟิศที่ดี เจ้านายเขาเมตตาให้ทำงานธุรการและเป็นเลขานุการให้เขาด้วย ประมาณว่าดูคิว โทรนัด แต่แอนไม่ชอบออกไปข้างนอกหรอกค่ะ ไม่ค่อยมั่นใจ เราไม่สวย เสื้อผ้าดี ๆ ก็ไม่มีใส่ กลัวเจ้านายเขาอายคน 555
ดูสภาพสิคะ รูปนี้เป็นชุดตัวเก่งที่จะใส่ไปทำงานของแอน เรียบ ๆ หรู ๆ ค่ะ ย้อนกลับมาดู คือแบบ เอิ่ม !! 555 แถมตอนนั้นหน้าสิว ดำ อ้วนอีก โอ๊ย… นี่ฉันหรือนี่ ยอมรับค่ะว่าไม่สวย ดูแก่เหมือนป้าวัย 40 เพลียค่ะ !!! แต่เราทำงานได้เงินเดือน ส่งให้ที่บ้านใช้บ้าง เก็บบ้าง ค่าหอบ้าง ก็ไม่ได้มีเงินทำสวยอะไรมากมาย แค่แป้งพัฟ ลิปมันดี ๆ สักแท่ง ก็หรูสุดแล้ว 555
มาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต คือ วันนั้นตอนเย็นหลังเลิกงาน แอนมีนัดไปหาญาติที่แถวกระทุ่มแบน นัดกันว่าจะไปทำอะไรกินกันที่บ้านเขา ตามประสาหมู่เฮา บ้านญาติถือว่าค่อนข้างเปลี่ยวค่ะ เข้าซอยมาลึกพอสมควร พอไปถึงก็ทำส้มตำกินกันปกติ แล้วเพื่อนแอนโทรมาพอดี เลยขอตัวออกมาคุยโทรศัพท์หน้าบ้าน เพราะข้างในบ้านร้องเพลงกันเสียงดังมาก บ้านลักษณะจะมีรั้วค่ะ ตอนเดินออกมานั้น ไม่ได้สังเกตเลยว่ารั้วบ้านไม่ได้ล็อกไว้ แต่นอกรั้วเยื้องไปคนละฝั่งถนน แอนเห็นผู้ชายกับรถขายผลไม้ สภาพดูเก่า กำลังเก็บขยะอยู่ แอนก็ไม่ได้สนใจอะไร จู่ ๆ จังหวะที่แอนคุยโทรศัพท์เพลิน ๆ นั้น มันก็วิ่งเข้ามากระชากตัวแอนค่ะ ล็อกคอ ดึงสุดพลัง พร้อมมีดเล่มยาว ตอนนั้นช่วงเวลาประมาณห้าทุ่ม
โจร : "ออกมากับกู ไปกับกู ขอเย… ทีหนึ่ง ออกมา อย่าเสียงดังนะ"
ตอนนั้นรู้เลยค่ะว่าโดนข่มขืนแน่นอน กลัวมาก ๆ มันเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ
แอน : "พี่อย่าทำหนูเลย พี่อย่าทำหนูเลย"
แอนพูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ ตกใจมาก อยากจะด่าก็ไม่กล้า ขณะนั้นโจรก็ยังไม่หยุดที่จะกระชากตัวแอน
ทันทีที่แอนมองหน้ามัน และมันจ้องหน้าแอน
โจร : "อ้าว เป็นกะเทยหรอวะ"
โจร : "อิห่า งั้นกูเอาตังค์ เอามา อย่าเสียงดังนะ"
ตอนนี้แอนสตั้นต์ไป 3 วินาที คือแบบงงมาก คิดว่าเราเป็นกะเทย ก็แอบดีใจ เพราะเพื่อนกะเทยจะสวย ๆ กันทุกคน แต่พอโจรมันดูตกใจ เราก็คิดว่ามันไม่ใช่แล้ว จังหวะนั้นแอนก็ล้วงของในกระเป๋าให้มัน ทั้งกระเป๋าตังค์ มือถือ แอนก็ยื่นให้มันเลย กลัวมาก หวังให้คนในบ้านออกมาช่วย... ตัดภาพไปในบ้านของแอน "ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากหัวใจ ลงทะเบียนฝากไว้…" เพลงหญิงลี ขับร้องโดยญาติของแอนเอง ดังลั่นสลับกับเสียงหัวเราะ สนุกสนาน อารมณ์แอนตอนนั้นคือแบบว่า คงพึ่งพาไม่ได้แต่อย่างใด
เหมือนจะไม่ทันใจ โจรมันดึง ขู่เอาไปทั้งกระเป๋าเลยค่ะ ทันทีที่กระเป๋าหลุดจากมือแอน เหมือนภาพที่แม่โดนพรากลูกไปจากอ้อมอก ทุกอย่างช้าไปหมด หน้าชา รู้สึกเจ็บปวด
แต่มีดพี่แกยาวเหลือเกิน ขู่จะแทง ๆ พอได้ของเสร็จ มันก็วิ่งออกไป ตอนนั้นแอนโมโหมาก เลยตะโกนด่ามันกลับไป สารพัดสัตว์เลยค่ะ มันคงโมโห เลยจะวิ่งกลับมาแทงเรา
แต่ขอโทษ ตอนนั้นแอนวิ่ง 4x100 เมตรเข้าบ้านแล้วค่ะ มันเลยรีบขี่รถหนีไป
ตามคลิปเลยค่ะ
จากนั้นญาติก็พาแอนไปแจ้งความค่ะ ตอนนี้ยังจับมันไม่ได้ พอไปเล่าให้ใคร ๆ ฟัง ทุกคนก็ลงความเห็นว่า "ดีนะ ที่มีหน้าเป็นอาวุธ" ขนาดโจรยังตกใจ ก็คงจะจริง โจรมันเลยไม่กล้าข่มขืนเรา เพราะเราเป็นสาวร่างใหญ่ ตอนนั้นสิวขึ้นเต็มหน้าด้วย เลยหันมาพิจารณาตัวเองค่ะ ว่าเรามันไม่สวยตรงไหน เพื่อนบอกว่า "ทุกตรง" T_T เลยคิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว แต่คงไม่ถึงขั้นศัลยกรรมหรอกค่ะ งบน้อย โจรก็เพิ่งปล้นไป เงินฉันนน T_T เพราะโจรแท้ ๆ เป็นจุดเปลี่ยนที่อยากให้ตัวเองดูดีขึ้น ไม่ใช่เพราะอยากโดนข่มขืนหรอกนะคะ แต่เพราะไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ก็มีแต่คนหัวเราะ
หลังจากเหตุการณ์นั้น หมดเลยค่ะ ทั้งกระเป๋า เงิน 7,000 มือถือ ทุกอย่าง กลายเป็นมีความหวาดระแวง กลัวไปหมดเวลาไปไหนต้องระวังตัวสุด ๆ
หลังจากใช้จิตเพ่งทางกระจกอยู่นาน จึงรู้ว่าเราต้องเปลี่ยนตัวเอง คือ
1. หุ่น
2. ผม
3. หน้า
4. ผิว
5. การแต่งกาย
สรุปทุกตรงจ้า
1. หุ่น
มาที่เรื่องของ "หุ่น"
"อีอ้วน" คำเรียกที่ดูตลกในสายตาคนอื่น แต่เราไม่ตลกเอาซะเลย ด้วยน้ำหนัก 69 กิโลกรัมในตอนนั้น เราจึงเริ่มเปลี่ยนรูปร่างอันดับแรก เริ่มเปลี่ยนเลยค่ะ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย
แอนว่าคำพูดของคนที่ว่า "หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก" ยังใช้ได้เสมอ
เช้า-เที่ยง
มื้อเช้าไม่บังคับตัวเองมาก กินไปเถอะค่ะ ขอแค่อาหารมีประโยชน์ อาจจะมีหมู รับไขมัน รับโปรตีนได้บ้าง เพราะแอนคิดว่า เราไม่ใช่นางแบบ เน้นกินหุ่นดี สมส่วนแบบพอดี ตอนเช้าแอนคิดว่ากินได้นะคะ เพราะมื้อเช้าสำคัญ กินเข้าไปพอดี ร่างกายก็ดึงไปใช้งานได้เยอะ เพราะตลอดทั้งวันเรามีกิจกรรม ช่วยเผาผลาญ มื้อเช้าเลยไม่ค่อยกังวล
สิ่งที่แอนกินส่วนใหญ่
1. ปลา
2. เน้น ต้ม นึ่ง
3. เน้นผัก
4. ผลไม้
อันนี้เป็นตัวอย่างอาหารของแอน
เมนูพวกนี้คือทานบ่อยสุด มีปลานึ่ง ข้าวธัญพืช แกงจืด ปลาทู น้ำพริกปลาร้า ผัดผัก น้ำผลไม้ น้ำเมล็ดเจีย ไข่ต้ม ประมาณนี้ค่ะ
ทุกมื้อของแอนในน้ำเปล่าจะมีเมล็ดเจียค่ะ ถ้ากินแป้ง หรือข้าว ก็ดื่มเมล็ดเจียผสมน้ำเปล่าหน่อยค่ะ เจลของเมล็ดเจียเนี่ย จะเข้าไปขัดขวางการย่อยแป้งที่จะย่อยแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำตาล คือดีมากค่ะ เพราะมีโปรตีนสูง แคลเซียมสูงกว่านม มีโอเมก้าสามมากกว่าปลาหลายเท่าเลยนะคะ แอนรู้จักเพราะคนพูดถึงกันเยอะมาก เลยหาข้อมูลดู
ส่วนมื้อเย็น โยเกิร์ตของดัชชี่ ออริจินอล มีติดตู้เย็นตลอด ช่วยเรื่องขับถ่าย ลองมาหลายยี่ห้อ ชอบอันนี้สุด รู้สึกว่าเห็นผลดีและอร่อยถูกปาก ใช้ทำได้กับทุกเมนู แอนจะมีสูตรเด็ดลดน้ำหนักค่ะ คือ ดัชชี่โยเกิร์ต ออริจินอล, เสาวรส และเมล็ดเจีย สูตรนี้ทานตอนเย็น ตื่นเช้ามารู้เรื่องเลยค่ะ ขับถ่ายคล่อง พุงยุบเลยค่ะ มันดีมาก คอนเฟิร์ม ! บางทีก็เป็นผลไม้ กับโยเกิร์ต ใส่เมล็ดเจียค่ะ แล้วแต่สะดวก
สูตรนี้แอนปรับมาจากในอินเทอร์เน็ตอีกที เห็นเขาใช้เมล็ดเจียลดน้ำหนักกัน แล้วได้ผลดี ลองมาหลายยี่ห้อ ก็เฉย ๆ นะ แต่ตอนนี้เลือกใช้ เนธารี่เชียซี้ด กล่องม่วง เพราะแอนลองให้แม่กินด้วย คุณภาพดี สังเกตได้ชัดว่า กินแล้วไขมัน ความดัน เบาหวานลดลง เขาแข็งแรงขึ้น เลยคิดว่าสารอาหารคงเยอะจริง เพราะคนพูดถึงเยอะมาก แอนไปซื้อที่โกลเด้นเพลสค่ะ
และออกกำลังกายด้วยค่ะ ที่ทำอยู่ก็คือวิ่งค่ะ วิ่งไปเรื่อย ๆ เพราะสะดวกแอนด้วย พยายามวิ่งเกือบทุกวันค่ะ การวิ่งช่วยลดขา ลดหุ่นได้ดี แต่ไม่ค่อยช่วยเรื่องแขน แขนแอนมีตัวช่วยค่ะ
และเวลาอยู่ห้อง แอนก็ยกน้ำหนักค่ะ 555 ขวดน้ำเปล่าที่กดมาดื่มนี่แหละค่ะ นำมาดัดแปลงตามภาพ ยกทุกวัน ดูทีวีไป ยกไป เพราะช่วยกระชับแขนได้ดีมาก ๆๆ ไม่ต้องลงทุน เหนื่อยก็เทน้ำออกมากินได้ สุดยอดค่ะ 555 แถมด้วยฮูลาฮูปลดเอวค่ะ
แค่นี้เลยค่ะ อันนี้รูปหุ่นปัจจุบัน อิอิ เขินนะตัวเอง กินอยู่แบบนี้ ทำอยู่แบบนี้ เรื่อย ๆ น้ำหนักแอนหายไป 16 กิโลกรัม ภายใน 2 เดือนกว่าค่ะ จากน้ำหนัก 69 ตอนนี้ 53 กิโลกรัมค่ะ ลดน้ำหนักสูตรแอนแบบสบาย ๆ เน้นธรรมชาติ ได้สุขภาพด้วยนะคะ
2. ผม
ตามด้วยเรื่องของผม ตอนนั้นมีหิมะตกที่หัวตลอดเวลาค่ะ แอนเลยสรรหาวิธีกำจัดมันออกไป เลยได้เจอกับสูตรพิเศษ คือ
ใช้มะนาวสด มาคั้นน้ำ 2-3 ลูก ผสมน้ำเล็กน้อย ชโลมให้ทั่วศีรษะเน้นบริเวณโคนผม
ใช้นิ้วนวด แล้วสวมหมวกอาบน้ำ หมักทิ้งไว้ 2-3 นาที (อย่านานกว่านี้ หัวจะแหกเอาค่ะ)
หลังจากนั้นล้างออก แล้วสระผมด้วย เซลซั่น ซัสเพนชั่น ราคาประมาณ 200 บาท หาซื้อได้ที่ร้านขายยาค่ะ ชื่อยาจะเป็น เซลซั่น ซัสเพนชั่น ซีลีเนียม ซัลไฟด์ 2.5% ช่วยเรื่องรังแค และกลากเกลื้อนด้วยนะ ใครเป็นอยู่ แนะนำค่ะ
หลังใช้รู้สึกสบายหัวมากค่ะ รังแคและอาการคันลดลงชัดเจน ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งนะคะ
ย้อนไปตอนนั้น แอนลองมาหลายทรงค่ะ อย่างในรูป แอนเข้าร้านทำผม บอกพี่ช่างว่า "เอาทรงผมคนดังค่ะ" ในใจแอนคิดถึงดารานางเอกดัง ๆ แต่พี่ช่างคงเข้าใจผิด ทำทรง "คนดังนั่งเคลียร์" มาให้
เดี๋ยวนี้ชอบแต่งตัวมากขึ้น อิอิ เจ้านายพาเราไปทุกที่ เป็นเลขาเต็มตัว เงินเดือนก็เพิ่มขึ้น ทำงานง่ายขึ้น บุคลิกดีขึ้น ชีวิตดีขึ้นมาก กลายเป็นว่าเริ่มมั่นใจในตัวเองขึ้นค่ะ และเลือกใช้ความมั่นใจมาพัฒนาการทำงาน เป็นเลขาที่ดี พูดจามั่นใจ ฟินมากค่ะ ^_^
นึกแล้วก็ขอด่าโจร และขอบคุณมัน ที่ทำให้แอนฉุกคิด เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในเหตุการณ์ร้าย ๆ อาจจะมีมุมมองดี ๆ เพียงแค่เรามั่นใจว่าทำได้ เลือกทำให้สิ่งที่เราไม่เดือนร้อน ทำตามกำลังค่ะ แอนไม่ได้ศัลยกรรมใด ๆ เพราะยังไม่มีตังค์ รอเก็บสักนิด 5555 อยากให้ทุกคนหันมารักตัวเองค่ะ
3. หน้า
มาที่ "หน้า" ค่ะ ดูแลอยู่หลายเดือนมากค่ะ กว่าสิวจะหาย กว่ารอยจะจางลง เป็นวงจรที่ยาวนานพอสมควร เกือบครึ่งปีเลยมั้งคะ คุณคะ กว่าจะเข้าใจคำว่า "หน้าดี" คืออะไรนั้น ผ่านมาเยอะ จากเมื่อก่อนใช้เครื่องสำอางแบบไม่เลือก แถมเราก็โบกเลยค่ะ รองพื้น แป้งพัฟเติมทั้งวัน เพราะเรามีสิว มีรอยดำ ก็พยายามจะปิด พอคนรอบข้างเคยชินกับการที่เราโบกหน้า วันไหนไม่โบกมานะ จำกันแทบไม่ได้ เพื่อนบางคนตกใจ คิดว่าเราป่วย 555 บางทีเพื่อนมานอนห้อง