วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559

ใครเป็นภูมิแพ้ควรอ่าน! เคล็ดลับกำจัดอาการภูมิแพ้ด้วย 4 อาหารใกล้ตัว

ใครเป็นภูมิแพ้ควรอ่าน! เคล็ดลับกำจัดอาการภูมิแพ้ด้วย 4 อาหารใกล้ตัว


โรคภูมิแพ้ เริ่มกลายเป็นโรคสุดฮิตของคนไทย ซึ่งสร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยอย่างเหลือคณานับ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ที่อากาศไม่บริสุทธิ์ คุณลิซ่า คอลลิเออร์ คูล นักเขียนเจ้าของรางวัล National Health Information Award มีตัวช่วยป้องกันความทรมานจากอาการของโรคนี้ ซึ่งได้แก่อาหารดังต่อไปนี้



1. ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว องุ่น เพราะผลไม้เหล่านี้จะมีวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการ ภูมิแพ้ ได้ โดยพยาบาลเด็กอ่อนได้กล่าวว่าเด็กแรกเกิดที่ดื่มนมแม่เป็นประจำ จะมีภูมิต้านทานต่อโรค ภูมิแพ้ เพราะได้รับวิตามินซีจากน้ำนม

2. มะเขือเทศ เป็นแหล่งรวมของวิตามินซีเช่นเดียวกับผลไม้ตระกูลส้ม นอกจากนี้ในมะเขือเทศยังมีไลโคปินซึ่งช่วยลดอาการหอบหืดจาก ภูมิแพ้ ได้เป็นอย่างดี

3. เมล็ดทานตะวัน นอกจากวิตามินซีแล้ว วิตามินอีก็เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่ช่วยต่อสู้กับโรค ภูมิแพ้ ได้ จากการวิจัยพบว่าอาหารที่มีวิตามินอีสูงจะช่วยลดการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อ ภูมิแพ้ ซึ่งเมล็ดทานตะวันก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี
4. ผักโขม เป็นอีกหนึ่งอาหารสำหรับพิชิต ภูมิแพ้ อย่างแท้จริง เนื่องจากอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสารที่หากร่างกายขาดไปจะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรค ภูมิแพ้ และหอบหืดได้ง่ายยิ่งขึ้น อาหารโปรดของป๊อบอายนี้จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่อยากห่างไกลอาการ ภูมิแพ้


รู้เช่นนี้แล้ว ระหว่างเดินช็อปปิ้งเลือกสรรอาหารเย็นนี้ อย่าลืมหยิบอาหารเหล่านี้ใส่ตะกร้าติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยนะครับ


ขอบคุณที่มาจาก : นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 359

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

ลูกค้าส่งด่วนทั่วโลกเตรียมเฮ ! รับส่วนลดครั้งใหญ่ 20% ทุกชิ้น เริ่ม 15 กุมภานี้ พร้อมรอลุ้นแคมเปญใหญ่ในรอบ 30 ปี เมษานี้ด้วย

ลูกค้าส่งด่วนทั่วโลกเตรียมเฮ ! รับส่วนลดครั้งใหญ่ 20% ทุกชิ้น เริ่ม 15 กุมภานี้ พร้อมรอลุ้นแคมเปญใหญ่ในรอบ 30 ปี เมษานี้ด้วย

             บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) มอบส่วนลดสุดคุ้มแก่ผู้ใช้บริการ EMS World ส่งด่วน ทั่วโลกทุกชิ้น โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องสมัครสมาชิก  และไม่มีขั้นต่ำ เพียงส่งเอกสารหรือสิ่งของตั้งแต่ชิ้นแรก ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัม จนน้ำหนักสูงสุด 30 กิโลกรัม ไปยังปลายทางทั่วโลกกว่า 94 ประเทศรับส่วนลดทันที 20% ทุกพิกัดน้ำหนักและทุกปลายทาง เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่แดนไกลช่วงเทศกาลวันครอบครัว  และสนับสนุนธุรกิจ SMEsและร้านค้าออนไลน์  ให้สามารถเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า และขยายการส่งออกไปทั่วโลก ได้ถึงที่หมายรวดเร็วยิ่งขึ้น

             นอกจากนี้ ยังมอบส่วนลดสำหรับผู้ใช้บริการกล่องเหมาจ่าย (One Price Box) ภายใต้มาตรฐานเดียวกับ EMS Worldทั้ง 3 ขนาด ได้แก่ กล่องหมายเลข 1 น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 3 กิโลกรัม  กล่องหมายเลข 2 น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 7  กิโลกรัม  และกล่องหมายเลข 3 น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 10  กิโลกรัม โดยมอบส่วนลดทุกกล่องตั้งแต่ 12% - 17 % ขึ้นอยู่กับโซนพื้นที่ปลายทาง  ซึ่งส่วนลดของ 2 บริการดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่วันที่  15 กุมภาพันธ์ จนถึง 31 พฤษภาคม 2559 นี้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่เปิดให้บริการทุกแห่งทั่วประเทศ

              หลังจากที่ไปรษณีย์ไทยปล่อยโปรโมชั่นส่วนลดบริการ EMS World และบริการกล่องเหมาจ่าย (One Price Box) นี้แล้ว ยังเตรียมกิจกรรมลุ้นโชคครั้งยิ่งใหญ่ครบรอบ 30 ปีการเปิดให้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศอีกด้วย เพื่อแทนคำขอบคุณผู้ใช้บริการที่ไว้วางใจให้ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้ส่งต่อความสุขและความสำเร็จของทุกธุรกิจ โดยจัดเต็มรางวัลมูลค่ารวม 13 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ใช้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ  บริการ EMS SUPER SPEED และบริการ EMS World กิจกรรมลุ้นโชคใหญ่นี้จะเริ่มเมษายน 2559 นี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรม และรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 และ www.thailandpost.co.th


วิธีการหาเงินจากการเป็นช่างภาพท่องเที่ยว

วิธีการหาเงินจากการเป็นช่างภาพท่องเที่ยว

Brendan van Son

วันนี้มีกรณีตัวอย่างการหาเงินจากการเป็นช่างภาพท่องเที่ยวของ Brendan van Son มาให้อ่านกันครับ ซึ่งบางช่องทางอาจมีคนทำรายได้มากกว่านั้น หากใครสนใจอยากจะเป็นบ้าง ลองติดตามบทความนี้กันดูครับ

ก่อนอื่นไปดูประวัติคร่าวๆของเขากันก่อนครับ Brendan van Son  อายุ 30 ปี เป็นนักข่าวท่องเที่ยวจากแคนาดา เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่เขาเดินทางไปทั่วโลกกว่า 80 ประเทศจาก 6 ทวีป เริ่มต้นด้วยการเขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเริ่มถ่ายรูปเพื่อเสริมบทความ สุดท้ายก็มาตระหนักว่าชอบถ่ายภาพมากกว่านั่งเขียน เขาเลยถ่ายภาพทุกครั้งที่มีโอกาส

เมื่อเริ่มต้นเขาใช้กล้อง Canon T2i และเลนส์ kit 18-55mm ตอนนี้ใช้  Canon 6D, 16-35mm f/4, 70-200mm f/2.8 IS, 50mm f/1.4 และอุปกรณ์เสริมบางอย่างเช่นแฟลช ขาตั้ง หรือ GoPro

me

หาเงินจากไหน และหาอย่างไร

ก่อนจะรู้ว่า “อย่างไร?” มาดูกันก่อนว่า “เท่าไหร่?”
เขาเดินทางรอบโลกใช้เงินเฉลี่ยนเดือนล่ะ 70,000 บาท รวมทั้งหมดไม่ว่าค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ฯลฯ  เขาไม่มีบ้าน ดังนั้น 70,000 บาทนี้คือรายจ่ายของเขาทั้งหมด เพื่อไม่ให้ต้องนอนใต้สะพาน เขาต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้!! หลังจากนั้นเขาเรียนรู้ที่จะหาเงินจาก 8 ช่องทาง โดยแต่ละช่องทางขอให้มีเงินเข้าอย่างน้อยซัก 8,750 บาท เขาก็อยู่ได้ แต่ถ้าสูญเสียไปช่องทางหนึ่ง ก็ยังมีอีกหลายช่องทางอยู่

Hatian Boy

1.งานนิตยสาร หนังสือพิมพ์

รายได้ทางนี้เข้ามาน้อยมาก ในปัจจุบันมันมีความต้องการทางตลาดไม่มาก ตัวอย่างงานเขาที่ถูกเผยแพร่ใน The Guardian  แต่งานข่าวพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากทำอีกต่อไป เพราะต้องใช้เวลา 95% ในการ pitching และใช้ แค่ 5% ในการลงพื้นที่จริงๆ เขาทำในกรณีที่นิตยสาร หรือ หนังสือพิมพ์ติดต่อมาเท่านั้น ตอนนี้เขาทำเงินประมาณ 5,250 บาท ต่อเดือนจากทางนี้

Iceland photo from the Guardian

2.ส่งภาพขาย Stock

เคยได้ยินมาว่า การส่งภาพขาย Stock สามารถทำรายได้ดีเลยทีเดียว หากคุณตั้งใจทำมัน และโฟกัสกับมัน 100% ของพลังงานของคุณทั้งหมด แต่ เขาพบว่าเขาสามารถทำรายได้จากทางนี้แบบพอดีและก็คงที่ เขาทำทั้งตลาด micro-stock และ big stock

สำหรับ Microstock เขามีพอร์ตอยู่เกือบสิบเว็บไซต์ ส่วนมากเขาชอบอัพโหลดไปที่ ShutterStock and iStock ในตลาดของ Microstock และได้รายได้เฉลี่ยประมาณ 9,000 บาทต่อเดือนมันเป็นรายได้แบบ passive แม้ว่าจะหยุดทำก็ยังจะมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ ส่วนตลอด Big Stock เขาไม่ค่อยลงไปเล่นมา แต่ก็ทำอยู่ที่ TandemStock มันได้รับผลตอบแทนที่ดีสำหรับเขาโดยได้เงินประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน และได้ชื่อเสียงด้วย ภาพของเขาเคยถูกใช้ในเว็บ Bing (เว็บค้นหาข้อมูลของไมโครซอฟต์)

Portrait of a Lion

3. ขายกับลูกค้าโดยตรง

นี่เป็นแหล่งรายได้ขนาดใหญ่ของเขา  โดยมีบริษัทที่ยอมจ่ายให้เขา 35,000 บาท ต่อปี เพียงแค่ใช้รูปของเขาเดือนละ สองภาพ โดยบริษัทจะนำไปใช้ใน social media และ ทางการตลาด บริษัทจะมีรูปแบบภาพที่เฉพาะเจาะจงที่พวกเขาต้องการ Brendan van Son เลยต้องสร้างมันขึ้นมาเพื่อบริษัทนั้น

4. ใช้ประโยชน์จากการติดตามใน social media

เขามีคนติดตามในFacebook 4หมื่นกว่าคน ใน Twitter 5 หมื่นกว่าคน ใน  Instagram 2 หมื่นกว่าคน เขากล่าวว่าช่างภาพที่ทำเงินได้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นช่างภาพที่เก่งที่สุด แต่เป็นคนที่รู้จักทำการตลาด เมื่อมีคนติดตามเยอะคุณสามารถทำเงินจากมันได้ เขาเคยเห็นคนดังใน youtube บางคนได้เงินเพียงแค่พูดเรื่องหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตใต้สะพาน

Lake Louise at Sunrise

5. เขียนบทความ (blog)

ก่อนหน้านี้ 2 ปี (2014) การเขียนบทความเป็นรายได้หลักของเขา เขาได้รายได้จากการโฆษณา และผู้ติดตาม แต่หลังจากนั้นรายได้จากทางนี้ก็ตกไปแม้ว่าจะมีผู้ติดตามมากขึ้น การทำรายได้ของเขาเช่น รีวิวสินค้าและแปะลิงค์เพื่อไปยัง Amazon เพื่อได้ค่านายหน้า อย่างไรก็ตามเขาก็ยังได้เงินอยู่ประมาณหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน จากรายได้ทางนี้

Mooney Falls

6. Youtube

เขาได้จัดทำ ช่องของตัวเอง เกี่ยวกับการท่องเที่ยว มีทั้ง ทิป บทเรียน รีวิว และอีกหลายๆอย่าง มีคนติดตามกว่า 5 พันคน และได้รายได้ต่อเดือนประมาณ 4 พันบาท

7. เปิดสอน

มีอีกหลายคนที่อยากเรียนถ่ายภาพ การสอนเลยเป็นช่องทางที่ดีในการหารายได้อีกทางหนึ่ง คนสอนที่ทำรายได้ ได้เยอะที่สุด ไม่ใช่คนที่ถ่ายเก่งที่สุด แต่เป็นคนที่มีความสามารถในการสื่อสารและสอนให้เข้าใจ และมีประสิทธิภาพ ช่างภาพหลายคนขายหนังสือ, วีดีโอ, ทำ บทเรียนการสอน หรือจัด workshop

Dragon's Backbone Rice Terraces, China

8. นักเขียนอิสระเกี่ยวกับการท่องเที่ยว

ช่องทางนี้เป็นช่องทางสำรอง เขาทำมันเฉพาะช่วงที่ไม่ค่อยมีเงินเท่านั้น ช่องทางนี้ทำรายได้โดยประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน

Girl in Guinea

9. ประหยัด

เมื่อคุณท่องเที่ยว การอดอมเงินก็เหมือนเป็นรายได้อีกแบบหนึ่ง บางครั้งเขาก็ถ่ายรูปโรงแรมสองสามรูปเพื่อแลกกับการพักฟรี มันคุ้มค่า เมื่อเขาไปแอฟริกาใต้ เขาทำเช่นนี้บ่อยมาก ค่าชมซาฟารี แพงมาก ดังนั้นเขาถ่ายรูป สองสามรูปเพื่อให้บริษัทนำไปใช้ทำการตลาด เพื่อแลกกับการไม่ต้องเสียเงิน เราได้รับผลประโยชน์กันทั้งคู่

Kirkjufellsfoss, Iceland

เฉลี่ยนแล้วเขาหารายได้ ได้ประมาณ 8-9 หมื่นบาท ในปี 2015 มันเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับการดำรงอยู่ในฐานะช่างภาพท่องเที่ยว

Budapest's Chian Bridge

หากใครสนใจอยากเป็นช่างภาพท่องเที่ยวอยู่หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์นะครับ

credits: petapixel